แนะนำเว็บบอลดีที่สุด
สูตรบาคาร่า
สูตร Circle of 13 นั้นคือ นำไพ่ใบที่ 2 ของแต่ละฝั่งมาเปรียบเทียบกันว่า ฝั่งไหนมีแต้มมากกว่ากัน ให้เราแทงฝั่งนั้น โดยยึดการนับแต้มจากน้อยไปหามากคือ 2 ถึง K ยกตัวอย่างเช่น ตัวอย่างที่หนึ่ง : “เพลเยอร์ ” = 5 , Q > “แบงเกอร์ ” = 5, Q โดยตาต่อไปให้เราแทงฝั่ง ” แบงเกอร์ ” ได้เลย สำหรับในตัวอย่างนี้ไพ่ใบสุดท้ายฝั่ง เพลเยอร์ คือ 4 และส่วนฝั่ง แบงเกอร์ นั้นคือ Q โดยตามกฎแล้วผู้เล่นต้องลงแทงฝั่ง แบงเกอร์ ตัวอย่างที่สอง : เพลเยอร์ = Q , 5 > “แบงเกอร์ ” = Q , 5 โดยตาต่อไปให้แทงฝั่ง ” เพลเยอร์ ” สำหรับในตัวอย่างนี้ไพ่ใบสุดท้ายฝั่ง “แบงเกอร์” คือ.. Q และส่วนฝั่ง “แบงเกอร์ ” นั้นคือ.. 5 โดยตามกฎแล้วต้องแทงฝั่ง ” เพลเยอร์ ” ซึ่งจุดแข็งของสูตรนี้จะไม่โดนเค้าไพ่หลอกค่ะ โดยจุดอ่อนคือถ้าผลออกตรงข้ามกับสูตรนี้ติดต่อกันนานๆ ก็หมดตัวได้เช่นกัน นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถใช้กฎนับแต้มทวนเข็มนาฬิกามาใช้คือให้ดูไพ่ 2 ใบสุดท้าย ซึ่งไพ่ฝั่งใดแต้มน้อยให้แทงฝั่งนั้น ยกตัวอย่างเช่น ตัวอย่างที่หนึ่ง : ” เพลเยอร์ ” = 6 , Q > “แบงเกอร์ ” = 6 , Q โดยตาต่อไปให้แทงฝั่ง ” เพลเยอร์ ” ตัวอย่างนี้ไพ่ใบสุดท้ายฝั่ง “เพลเยอร์” คือ.. 6 ส่วนฝั่ง ” แบงเกอร์ ” คือ Q ตามกฎต้องแทง “เพลเยอร์ ” ตัวอย่างที่สอง : ” เพลเยอร์ ” = Q , 6 > “แบงเกอร์” = Q, 6 โดยตาต่อไปให้แทงฝั่ง ” แบงเกอร์ ” ตัวอย่างนี้ไพ่ใบสุดท้ายฝั่ง ” เพลเยอร์ ” คือ.. Q และส่วนฝั่ง ” แบงเกอร์ ” คือ.. 6 ตามกฎต้องแทง ” แบงเกอร์ ” อย่างไรก็ดีหากผู้เล่นแทงผิดติดต่อกัน 5 – 6 เกมขึ้นไป แนะนำว่าควรหยุดดูทรงไพ่ก่อนว่าจะออกมาในลักษณะไหน เพื่อความแม่นยำในการแทง และพลาดน้อยที่สุดหากข้อมูลข้างต้นยังไม่เพียงพอสำหรับท่าน เว็บของเรายังมียังมี สูตร และ เทคนิค ต่าง ๆ ที่อยากนำมาแนะนำให้ท่านได้เรียนรู้เพิ่มเติม เพียงท่านคลิกไปที่เว็บ ทีเด็ดบอล UFABET
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น